กรุณาระบุคำค้นหาที่ท่านต้องการ

คอร์รัปชันลดลงได้แต่ต้องเปลี่ยนระบบการทำงาน
บทความใสสะอาด
26 ตุลาคม 2565
ผู้เข้าชม 362 คน
Post Content Image

        ในไลน์กลุ่มที่ผู้เขียนมีอยู่เกือบทุกกลุ่มในระยะนี้ ที่ส่งต่อบทกวีนิพนธ์ของพระเมธีวชิโรดม หรือพระอาจารย์ ว. วชิรเมธี พระนักวิชาการ นักคิด นักเขียน และนักบรรยายธรรมชื่อดัง ดังรายละเอียดในภาพข้างล่างนี้ ขอใช้ภาพแทนตัวอักษรเพราะประหยัดเนื้อที่ครับ

        ทั้งนี้ มีข้อสังเกตด้วยว่าไม่ค่อยได้เห็นท่านอาจารย์ ว.วชิรเมธี เขียนถึงการเมือง ฤา สภาพสังคมชาติบ้านเมืองทุกวันนี้ วิกฤต จริงๆ !

        อย่างไรก็ตาม พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี ได้ชี้แจงในตอนหลังว่า ได้เขียนเพื่อเตือนสติสังคมไทย เพราะมีปัญหาทุจริตคอรัปชั่นอยู่ในแทบทุกวงการ อันเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์พัฒนาประเทศ

        ทั้งนี้ โดยได้ใช้ข้อมูลจากสื่อมวลชนเป็นหลัก ไม่ได้จินตนาการเอง เป็นการเขียนเชิงธรรมะ (ศีลข้อที่ ๒) ไม่ใช่เชิงการเมือง และไม่ได้เขียนเพื่อเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทั้งสิ้น แต่เขียนเพื่อความดีงามของสังคมไทยโดยรวมในระยะยาว

        ผู้เขียนขออนุโมธนาสาธุพระอาจารย์ ว. วชิรเมธี ด้วย และผู้เขียนก็เห็นว่าการคอรัปชั่นในเมืองไทยนั้นมีอยู่ตลอดและเท่าที่ทราบน่าจะมีมากขึ้นด้วยซ้ำ

        อย่างไรก็ตาม การตัดสินสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยใช้ความคิด สายตา ความเชื่อหรือจากการบอกเล่าจากคนอื่นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องหรอกครับ

        อย่างกรณีวัคซีนซึ่งคนไทยหลายคนไม่ได้เป็นหมอ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่นักวิจัย และไม่เคยใช้ แต่วิเคราะห์กันได้เก่งว่าวัคซีนป้องกันโควิดตัวใดมีคุณภาพสูงหรือมีคุณภาพต่ำ

        ตามหลักวิทยาศาสตร์นั้นมีจำเป็นต้องหาข้อมูลที่เชื่อถือได้มาสนับสนุนแล้ววิเคราะห์ก่อนการตัดสินใจ

        ข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดในเรื่องคอร์รัปชั่นคงไม่มีใครเกินหน้าองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International - TI) ซึ่งเผยแพร่ดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชั่นในภาครัฐทั่วโลก (Corruption Perception Index - CPI)

        ผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติได้จัดทำไว้ถึง ๕ ปี ครับ คือตั้งแต่ปี ประจำปี ๒๕๕๙ ถึงปีสุดท้ายที่ได้จัดทำคือปี ๒๕๖๓

        ผลปรากฏว่าดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นในปี ๒๕๖๓ ประเทศส่วนใหญ่แทบไม่มีความคืบหน้าในการขจัดคอร์รัปชั่น และเช่นเดียวกับปีที่แล้วมากกว่า ๒ ใน ๓ ของ ๑๘๐ ประเทศได้คะแนนต่ำกว่า ๕๐ โดยมีคะแนนเฉลี่ยเพียง ๔๓ คะแนนเท่านั้น

        อ้อ คะแนนมากหมายถึงโปร่งใสมากหรือคอร์รัปชั่นน้อย ในทางกลับกันคะแนนน้อยหมายถึงโปร่งใสน้อยหรือคอร์รัปชั่นมากนะครับ

        สำหรับประเทศไทยอันดับถดถอยต่อเนื่องลงมา ในปี ๒๕๕๙ อันดับที่ ๑๐๑ ดีขึ้นในปี ๒๕๖๐ คืออันดับที่ ๙๖ หลังจากนั้น อันดับก็มากขึ้นเป็นอันดับที่ ๙๙ และ ๑๐๑ จนถึงอันดับที่ ๑๐๔ ในปี ๒๕๖๓

        ส่วนคะแนนที่ได้รับหรือครับ ปี ๒๕๕๙ ได้ ๓๕ คะแนน ปี ๒๔๖๐ ดีขึ้นนิดหน่อยคือ ๓๗ หลังจากนั้นคะนนเท่าเดิมคือ ๓๖ คะแนน จนถึงปี ๒๕๖๓ ชมรายละเอียดไดัจากภาพข้างล่างนี้ครับ

        ผู้เขียนเห็นว่าหากทางราชการยังคงใช้ระบบการทำงานดังเช่นในปัจจุบัน คือให้ข้าราชการใช้ดุลพินิจในการดำเนินการจดทะเบียน ขออนุญาตหรืออนุมัติ คอร์รัปชั่นก็ยังเกิดขึ้นอยู่ต่อไป

        ส่วนราชการต่างๆ อาจทำได้รวดเร็วมากคือการกำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาต อนุมัติให้ชัดเขนแล้วลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ลง

        ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่คือราคาที่ผู้รับบริการต้องจ่ายเพิ่มเติมนอกจากค่าธรรมเนียม ครับ ลดการใช้ดุลพินิจเมื่อไร คอร์รัปชั่นก็ลดลงเมื่อนั้น

        อีกอย่างหนึ่งต้องใช้เวลาหน่อย คือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน

        ขอยกตัวอย่างหน่วยงานแห่งหนึ่งซึ่งเคยขึ้นชื่อว่าเป็นหน่วยงานที่มีการคอร์รัปชั่นมากหน่วยงานหนึ่ง แต่ปัจจุบันในภาพรวมไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว

        เป็นความกล้าของผู้บริหารที่ตั้งใจทำงานเพื่อให้บริการประชาชนอย่างแท้จริง คงอยากทราบแล้วซิครับว่ากรมไหนและเป็นความจริงหรือไม่ หน่วยงานนั้นคือกรมที่ดินครับ คงอยากทราบต่อว่าเป็นไปได้อย่างไร และกรมที่ดินได้ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานอย่างไร

        ขณะนั้นผู้เขียนยังรับราชการอยู่ที่สำนักงาน ก.พ. และเป็นประธานประชาสัมพันธ์ภายนอกของสำนักงาน ก.พ. ยังได้นำผลงานการปรับปรุงระบบการทำงานของกรมที่ดินไปจัดงาน Showcase ที่สำนักงาน ก.พ. ด้วย มาดูกันครับว่ากรมที่ดินทำอย่างไร

        กรมที่ดินได้รับการคัดเลือกจากสำนักงาน ก.พ. ให้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพ เมื่อปี ๒๕๔๐ โดยจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาวางระบบ และบุคลากรของสำนักงาน ก.พ. ก็ได้ไปช่วยกำกับดูแลด้วย

        ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของกรมที่ดิน ทั้งด้านบุคลากร ระบบงาน และสถานที่ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ สนองความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ และขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น

        กรมที่ดินได้จัดตั้งสำนักงานเป็นการภายในซึ่งมีอัตรากำลังไม่มากนัก ขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมที่ดิน เพื่อให้การดำเนินงานมีความคล่องตัว โดยสำนักงานนี้ทำงานหลายด้าน

        ประการแรก พัฒนาระบบงาน ทั้งงานฝ่ายทะเบียนและฝ่ายรังวัด ซึ่งทั้งสองฝ่ายนี้เป็นหัวใจสำคัญของกรมที่ดินในการบริการประชาชน และขึ้นชื่อว่ามีทั้งเงินใต้โต๊ะและเงินบนโต๊ะมากที่สุด

        ฝ่ายทะเบียนได้พัฒนาระบบงานโดยการจัดให้มีระบบคิวในการบริการ ใช้คอมพิวเตอร์ลงข้อมูล เพื่อให้ผู้มาติดต่อขอรับบริการตามลำดับคิว ทบทวนและกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานใหม่เพื่อให้สะดวก รวดเร็ว แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้รับบริการ

        ฝ่ายรังวัด จัดทำบัญชีการรังวัดของช่างรังวัดเป็นรายบุคคล กำหนดแนวทางการปฏิบัติงาน ให้รวดเร็วขึ้น กำหนดให้มีการแสดงตารางการนัดรังวัดและปริมาณงานของช่างรังวัดเป็นรายบุคคล พร้อมติดประกาศค่าใช้จ่ายในการขอรังวัดให้เห็นชัดเจน ณ ฝ่ายรังวัด

        นอกจากนั้น ยังใช้กิจกรรม ๕ ส ในทุกหน่วยงานของกรมที่ดิน โดยเฉพาะในสำนักงานที่ดิน ซึงช่วยให้การค้นหาเอกสารได้สะดวก รวดเร็ว ส่งผลให้การบริการสะดวก รวดเร็วขึ้น

        ประการที่สอง พัฒนาบุคลากร จัดทำมาตรฐานคุณธรรมและจริยธรรมข้าราชการกรมที่ดินขึ้น ใช้ในการประเมินความดีความชอบประจำปี และเป็นกรอบแนวทางในการคัดเลือกผู้มีคุณธรรมจริยธรรมดีเด่นของกรมที่ดิน จัดอบรมเรื่อ

        การเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท และมาตราฐานคุณธรรมให้แก่ข้าราชการทุกระดับ

        ประการที่สาม พัฒนาสถานที่ จัดสถานที่ให้อำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการ และมีป้ายอำนวยความสะดวก เช่น ป้ายบอกทาง ป้ายแสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน ระยะเวลา และค่าใช้จ่าย ป้ายแสดงช่องการรับบริการ ป้ายอัตรากำลังในสำนักงาน (ภาพถ่าย ชื่อ-สกุล ตำแหน่ง) ป้ายชื่อติดโต๊ะ ป้ายชื่อติดหน้าอก

        ทั้งนี้ ได้จัดให้มีกล่องรับแบบแสดงความคิดเห็น และป้ายสรุปความคิดเห็นและการดำเนินการตามข้อเสนอแนะติดบริเวณสถานที่รับบริการ

        ที่สำคัญได้จัดให้มีการสร้างนวัตกรรมใหม่ด้วยการประกวดความคิดสร้างสรรในการบริการ และกระบวนการที่ได้รับรางวัล แล้วนำมาสู่การปฏิบัติงานจริง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้รับบริการ เช่น การนัดจดทะเบียนล่วงหน้า และการจดทะเบียนต่างสำนักงาน เป็นต้น

        ทราบว่าปัจจุบันกรมที่ดินได้พัฒนาระบบสารสนเทศ จัดทำศูนย์ข้อมูลที่ดินและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานที่ดิน ทำให้ในอนาคตการติดต่อราชการงานที่ดินจะสะดวก รวดเร็วและสามารถดูรูปแผนที่ ข้อมูลที่ดินได้จากโทรศัพท์มือถือ

        ที่สำคัญที่สุดกรมที่ดินได้ประเมินผลการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ และได้รับการประเมินผลจากหน่วยงานภายนอก เช่น สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ก.พ.ร. โดยได้รับรางวัลอยู่ในลำดับต้นๆ เสมอมา

        ก็ขอชื่นชมกรมที่ดินไว้ด้วย ส่วนราชการอื่นคิดจะทำด้วยไหมละครับ ก็ขอฝากหัวหน้าส่วนราชการทุกท่านไว้ด้วย ทำเถิดครับ แม้ข้าราชการในสังกัดไม่ชอบท่านเพราะไปตัดทางหากินของพวกเขา

        แต่เชื่อผู้เขียนเถิดครับ ความดีที่ท่านทำให้แก่ประชาชนจะเป็นความภูมิใจติดตัวไปกับท่านตลอดกาล


พุธทรัพย์ มณีศรี

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
บทความใสสะอาด ที่เกี่ยวข้อง
Hover Icon
บทความใสสะอาด
ตามไปดูลูกสาวของแผ่นดินที่สงขลา
14 กุมภาพันธ์ 2566
244
Hover Icon
บทความใสสะอาด
คืนคุณภาพสู่ห้องเรียน
06 กุมภาพันธ์ 2566
1,779
Hover Icon
บทความใสสะอาด
จริยธรรมข้าราชการพลเรือน
06 กุมภาพันธ์ 2566
819
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" นโยบายความเป็นส่วนตัว

การตั้งค่าคุกกี้