กรุณาระบุคำค้นหาที่ท่านต้องการ

จะช่วยป้องกันไม่ให้ข้าราชการใหม่ถูกครอบงำการโกงได้อย่างไร
บทความใสสะอาด
26 ตุลาคม 2565
ผู้เข้าชม 190 คน
Post Content Image

​การที่ผู้เขียนได้เขียนบทความเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นอยู่บ่อยๆ ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับการคอรัปชั่นไหลเข้ามาที่ผู้เขียนมากยิ่งขึ้น

บางเรื่องก็เปิดเผยได้ แต่บางเรื่องก็เปิดเผยไม่ได้ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ให้ข้อมูลหรือแม้กระทั่งตัวผู้เขียนเอง

สำหรับผู้เขียนนั้นไม่เท่าไรหรอกครับเพราะอายุอานามก็มากโขแล้ว แต่สำหรับผู้ที่อายุยังน้อยอยู่เป็นเรื่องที่ต้องระวังเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับอนาคตของเขา

เรื่องเงินทอนซึ่งพูดกันหนาหูในระยะนี้ เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ และก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปแล้วในบางส่วนราชการ

ฟังคำบอกเล่าจากข้าราชการบรรจุใหม่คนหนึ่งแล้วน่าตกใจครับ เพราะหัวหน้าได้สั่งว่าจะทำอย่างไรก็ได้ แต่ขอให้นำเงินที่ได้รับจากโครงการเข้ากองทุนสวัสดิการให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐

แม้เงินนี้ไม่ได้เข้าพกเข้าห่อใครโดยเฉพาะ เพราะนำมาใช้เพื่อเป็นสวัสดิการของหน่วยงานนั้นและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเพราะถือเป็นการโกงหลวงอยู่ดี

อีกคนหนึ่งหัวหน้าได้มอบหมายให้ไปติดต่อโรงแรมพร้อมกับขอให้เรียกเงินทอนด้วย รายนี้ไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่านำมาเข้ากองทุนสวัสดิการหรือไม่

อย่างไรก็ตาม การนำเงินจากการโกงหลวงมาจัดสวัสดิการให้แก่ข้าราชการนั้น เป็นเรื่องไม่สมควรและเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

เพราะการจัดสวัสดิการให้แก่ข้าราชการนั้น ราชการก็ได้ให้การสนับสนุนในการจัดอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินบาปเช่นนี้ แต่ประการใด

ข้าราชการทั้งสองคนนี้ได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบว่าไม่ต้องการที่จะทำแบบนี้ รู้สึกไม่สบายใจเพราะเป็นการโกงหลวง แต่หากไม่ทำตามที่หัวหน้าสั่งก็อาจจะเดือดร้อนในภายหลัง

จึงถามผู้เขียนว่าหากกรณีที่เป็นผู้เขียนได้รับคำสั่งเช่นนี้ จะดำเนินการอย่างไรถึงจะไม่ได้ชื่อว่าโกงหลวงและไม่ให้หัวหน้าเพ่งเล็งถึงความไม่ร่วมมือซึ่งอาจสั่งผลกระทบกับหน้าที่การงานในภายหลัง

วูบแรกดีใจครับ ดีใจที่ข้าราชการบรรจุใหม่มีจิตสำนึกที่ดี ข้าราชการเหล่านี้คงเป็นผู้ที่ได้รับการสั่งสอนมาว่า “โตขึ้น จะไม่โกง” หากเรามีข้าราชการบรรจุใหม่เช่นนี้เยอะๆ ประเทศไทยมีความหวังครับ

วูบที่สองกังวลใจและไม่สบายใจ ยุคสมัยนี้เป็นยุคที่รัฐบาลเอาจริงเอาจังในเรื่องคอร์รัปชั่น ทั้งการสอบสวน การสั่งให้หยุดงานเพื่อรอการสอบสวน หรือไม่ก็ลงโทษปลดออกหรือไล่ออกไปแล้วหลายราย ทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และผู้น้อย ยังจะมีข้าราชการประเภท “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” อยู่อีกหรือนี่

ผู้เขียนโชคดีที่ตลอดชีวิตการรับราชการ ไม่เคยมีผู้บังคับบัญชาที่ประพฤติปฏิบัติเช่นนั้น จึงไม่มีประสบการณ์ตรงอย่างที่ข้าราชการบรรจุใหม่ ๒ คน ได้พบเห็น

แต่มีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าหากเราทำความดีและไม่ทำความชั่ว นอกจากมีความสุขใจแล้ว ยังเจริญก้าวหน้าในราชการได้อีกด้วย

จึงได้ตอบข้าราชการทั้งสองนี้ไปว่า ขอให้เรียนหัวหน้าตรงๆ ว่าเรื่องทำนองนี้ไม่เคยทำและทำไม่เป็น ขอความกรุณาหัวหน้ามอบงานอย่างอื่นให้ทำแทนด้วยเถิด

หัวหน้าอาจจะไม่พอใจในคำตอบนั้น แต่หากกระทำลงไปแล้วถูกจับได้ ทั้งคนทุจริตหรือคนสั่งให้ทำย่อมได้รับโทษเท่ากัน

นอกจากนั้น ความผิดที่ได้กระทำไปจะเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต นึกขึ้นมาทีไรก็อาจจะทุกข์ใจได้ทุกครั้ง จึงขอให้เจ็บเพียงครั้งเดียวจะได้ไม่มีหนามมาบาดใจอีกในอนาคต

นอกจากนี้ หากเรื่องราวที่ได้กระทำไปถูกเปิดเผย สิ่งดีๆ ที่ได้กระทำมาตลอดชีวิตก็หายไปด้วย เสียทั้งชื่อเสียงของตนเองและวงศ์ตระกูล ดังนั้น จึงได้ไม่คุ้มเสีย

คำตอบที่ตอบไปคงไม่จุใจทั้งคนถามและคนตอบ หากผู้อ่านท่านใดมีคำตอบที่ดีกว่านี้ก็กรุณาช่วยตอบด้วย เพราะหากมีข้าราชการผู้ใดถามอีก ก็จะได้ใช้เป็นคำตอบคำถามเช่นนี้ให้จุใจต่อไป

ผู้เขียนเห็นว่านอกจากปลูกฝังไม่ให้ข้าราชการโกงแล้ว คุณธรรมและจริยธรรมอย่างอื่นก็ต้องหมั่นปลูกฝังให้เกิดขึ้นในข้าราชการทุกหมู่เหล่า เพราะบางเรื่องแม้ไม่ใช่คอร์รัปชั่น แต่ก็ไม่สมควรกระทำ

ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า มีข้าราชการคนหนึ่งขออนุมัติใช้โทรศัพท์ทางไกลไปต่างจังหวัด เพื่อขอให้ส่งใบเสร็จรับเงินค่าจอดรถราชการที่นำไปด้วยคิดเป็นเงิน ประมาณ ๕๐ บาท ทั้งนี้ เพื่อจะได้เป็นหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายจากทางราชการ

ท่านไม่อนุมัติแต่ได้แนบเงิน ๕๐ บาท พร้อมกับเรื่องที่ขอเบิก เพราะเห็นว่าค่าโทรศัพท์ทางไกลรวมกับค่าส่งใบเสร็จก็น่าจะประมาณนั้น ท่านเสียดายเงินหลวงครับ

ตัวอย่างดีๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ได้ฟังจากข้าราชการท่านหนึ่งคือ ในช่วงหนึ่งที่เพื่อนรับราชการ เพื่อนได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าแผนกการเงิน

แปลกใจมากที่เมื่อนำเงินไปชำระค่าวัสดุที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง เพราะเมื่อร้านค้าตรวจนับเงินว่าถูกต้องครบถ้วยแล้ว เจ้าของร้านได้วางเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้

สอบถามแล้วทราบว่าร้านค้ามอบให้ผู้นำเงินมาชำระทุกครั้ง เพื่อนผู้นั้นได้ปฏิเสธและแจ้งทางร้านให้ลดราคาค่าวัสดุให้หน่วยงานแทนการกระทำดังกล่าว

จิตสำนึกทำนองนี้ควรปลูกฝังให้ข้าราชการเป็นอย่างยิ่ง นอกเหนือจากจิตสำนึกการไม่ยักยอกเงินหลวงไว้ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือพรรคพวกดังที่ได้กล่าวแล้ว

พุธทรัพย์ มณีศรี
(เผยแพร่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ : OK Nation Blog)

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
บทความใสสะอาด ที่เกี่ยวข้อง
Hover Icon
บทความใสสะอาด
ตามไปดูลูกสาวของแผ่นดินที่สงขลา
14 กุมภาพันธ์ 2566
246
Hover Icon
บทความใสสะอาด
คืนคุณภาพสู่ห้องเรียน
06 กุมภาพันธ์ 2566
1,789
Hover Icon
บทความใสสะอาด
จริยธรรมข้าราชการพลเรือน
06 กุมภาพันธ์ 2566
821
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" นโยบายความเป็นส่วนตัว

การตั้งค่าคุกกี้