เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้เขียนบทความเรื่อง “การคอร์รัปชั่นที่ตรวจสอบยากก็ทำได้ครับ หากทุกคนช่วยกัน”
ได้ยกตัวอย่างการคอร์รัปชั่นเรื่องหนึ่งที่ทำกันจนเป็นเรื่องปกติคือการอบรมสัมมนา ที่เบิกค่าอาหาร ที่พัก มีส่วนต่างมากๆ เบิกค่าอาหาร ๑๕๐ บาท แต่เลี้ยงข้าวกล่อง เป็นต้น
นอกจากการโกงด้วยวิธีการนี้ซึ่งมีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว ยังมีวิธีการโกงเงินหลวงอีกๆหลายๆ วิธี
ข้าราชการต่างจังหวัดหลายรายที่โกงเงินหลวงแบบนี้ บางคนก็เอาเข้าพกเข้าห่อตนเอง แต่บางคนก็โกงแล้วนำเงินเข้ามาเก็บไว้ใน “บัญชีโกงส่วนกลาง” ก็มี
เมื่อผู้บังคับบัญชาหรือข้าราชการจากส่วนกลางไปเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจงาน ดูงาน สัมมนาหรือเดินทางไปเยี่ยมเยียนเป็นการส่วนตัว
ก็นำเงินจาก “บัญชีโกงส่วนกลาง” ที่สามัคคีกันโกงจากเงินหลวงนี่แหละครับ มาเลี้ยงต้อนรับตามประเพณีไทยที่ยึดถือกันมาช้านานว่า “ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ”
เพราะข้าราชการส่วนภูมิภาคใช้เงินส่วนตัวมารับภาระในการเลี้ยงต้อนรับไม่ไหวหรอกครับ หากทำแบบบ่อยๆ โดยการเอาหน้าเข้าไว้ ก็อาจต้องกู้เงินมาเลี้ยงต้อนรับก็ได้
การปล่อยให้นำเงินจาก “บัญชีโกงส่วนกลาง” นี้มาเลี้ยงอาหาร อาจกล่าวได้ว่าคนที่โกงหลวงตัวจริงก็คือผู้บังคับบัญชาหรือข้าราชการจากส่วนกลางที่ไปเยือนจังหวัดนั้นๆ นั่นแหละที่อาจโกงโดยสุจริต
ที่จริงการเดินทางไปตรวจงาน ดูงานหรือไปสัมมนาในต่างจังหวัด ข้าราชการที่เดินทางไปก็มีเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าอาหารและค่าที่พักตามสมควรแก่ตำแหน่งหน้าที่อยู่แล้ว
เหตุใดไม่นำเงินเหล่านั้นมารวมกันแล้วนำไปใช้จ่ายให้ถูกประเภท ทำแบบนี้ก็จะไม่เบียดเบียนลูกน้องหรือเพื่อนข้าราชการที่อยู่ต่างจังหวัด
หากผู้บังคับบัญชาและข้าราชการจากส่วนกลางกระทำดังเช่นที่กล่าวไว้ข้างต้น นอกจากข้าราชการส่วนภูมิภาคจะให้การยกย่องนับถือแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะช่วยกันโกงเงินหลวงเพื่อนำเข้ามาไว้ใน “บัญชีโกงส่วนกลาง” อีกด้วย
คราวนี้ก็อาจยกเลิกการโกงหลวงเพื่อนำเข้าเป็นส่วนกลางได้ทุกกรณี ใครที่ยังฝ่าฝืนอยู่โดยการโกงเข้ากระเป๋าตนเองก็จะได้ทราบและใช้ไม้แข็งได้เต็มที่
ผู้เขียนเองเมื่อเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อไปท่องเที่ยวเป็นการส่วนตัวก็ระวังครับ อนุญาตให้เพื่อนฝูงเลี้ยงได้ แต่ก็ขออนุญาตเลี้ยงกลับครับ เพราะมีความรู้สึกอายที่จะไปล้มทับเพื่อน
เรื่องที่กล่าวข้างต้นนี้ทำได้ไหม คำตอบก็คือทำได้ครับ หากรัฐบาลกำหนดเป็นโยบายในเรื่องนี้ให้ชัดเจน
แต่คงไม่ต้องถึงรัฐบาลหรอกครับ แค่อธิบดีหรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการลงไป แล้วต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดี ต่อไปก็จะเลิกการเลี้ยงต้อนรับแบบที่ข้าราชการต่างจังหวัดต้องจ่าย
การเลี้ยงสังสรรค์กันก็ยังคงมีตามปกติ แต่เป็นการเลี้ยงที่เรียบง่าย ไม่เกินค่าอาหารและค่าเบี้ยเลี้ยงการเดินทางของผู้ไปเยือนซึ่งได้รับอยู่แล้ว
ทำแบบนี้ข้าราชการต่างจังหวัดก็จะสบายใจ และไม่จำเป็นที่จะสุมหัวกันโกงเงินหลวงเพื่อนำมาเก็บไว้ใน “บัญชีโกงส่วนกลาง” ไว้ใช้ในการเลี้ยงต้อนรับกันอีกต่อไป
หากทำแบบนี้ได้ ผู้เขียนมีความเชื่อลึกๆ ว่า ผู้ที่พยายามโกงเงินหลวงก็น่าจะลดลง เพราะผู้บังคับบัญชาเอาจริงและไม่ต้องการร่วมโกงด้วย
แต่จะเป็นเสียงที่ลอยไปตามลมหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้
พุธทรัพย์ มณีศรี
(เผยแพร่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ : OK Nation Blog)