กรุณาระบุคำค้นหาที่ท่านต้องการ

คุณธรรมจริยธรรมของ “บอร์ด” บางท่านหายไปไหน
บทความใสสะอาด
26 ตุลาคม 2565
ผู้เข้าชม 153 คน
Post Content Image

    ระยะนี้ผู้เขียนได้เขียนบทความเกี่ยวกับการส่งเสริมการให้ข้าราชการเป็นคนดีมีคุณธรรม รวมทั้งบทความเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นบ่อยขึ้น เจตนาก็เพื่อให้ผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรมได้รับการยกย่องเชิดชูในสังคม และเพื่อให้ผู้มีคุณธรรมจริยธรรมมีที่ยืนในสังคมได้อย่างสง่าผ่าเผย

ในทางกลับกัน ก็เพื่อให้คนที่ทุจริตคอร์รัปชั่นหรือคนโกง โดยเฉพาะคนโกงบ้านโกงเมือง หรือคนที่ไม่มีคุณธรรมจริยธรรม จะได้ไม่มีที่ยืนในสังคม

และอยากเรียกร้องให้ผู้อ่านทุกท่าน ได้โปรดช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนให้บรรลุจุดมุ่งหมายสุดท้ายก็คือ ให้ “ประเทศไทยใสสะอาด ปราศจากคอร์รัปชั่น”

รวมทั้งเพื่อให้คนไทยเราทุกคนเป็นคนดีมีคุณธรรม ซึ่งจะทำให้สังคมของคนทั้งชาติเป็นสังคมที่สงบ อบอุ่นและอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

วันนี้มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังอีกเกี่ยวกับคนบางคน เพราะแม้ท่านเหล่านั้นมีหน้ามีตาในสังคม แต่ผู้เขียนมีความเห็นว่าบุคคลผู้นั้นน่าจะมีคุณธรรมจริยธรรมมากกว่านี้

“มีหน้ามีตาในสังคม” อย่างไร ก็มีหน้ามีตาซิครับ เพราะบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบางคณะซึ่งเรียกกันว่า “บอร์ด” นั่นแหละครับ ย่อมเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีหน้ามีตาในสังคม ไม่งั้น เขาก็คงไม่ตั้งให้เป็นบอร์ดหรอกครับ

ดังนั้น คำว่า “กรรมการ” ในบทความนี้ จึงหมายถึงเฉพาะคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นบอร์ด หรือที่มีกฎหมายหรือข้อบังคับกำหนดคุณสมบัติการได้รับการสรรหาหรือเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไว้เท่านั้น ไม่รวมคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งโดยทั่วไป

เพราะกรรมการบางท่านเมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “บอร์ด” ปัจจุบันไม่มีคุณสมบัติหรือขาดคุณสมบัติที่จะเป็น “บอร์ด” แล้ว แต่ก็ยังนั่งเป็นบอร์ดอยู่ ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะเบี้ยประชุมที่ได้รับในแต่ละครั้งหรือแต่ละเดือนนั้นค่อนข้างสูง

หรือไม่ก็อาจรอให้ผู้มีอำนาจสั่งปลด เพราะกรรมการผู้นั้นไม่มีคุณธรรมจริยธรรมเพียงพอที่จะลาออกด้วยตนเอง

ยกตัวอย่างง่ายๆ ๒ ตัวอย่าง นะครับ เช่น คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้กำหนดไว้ว่า กรณีที่หนึ่ง “ต้องไม่เป็นข้าราชการเมืองหรือเป็นกรรมการพรรคการเมือง” หรือกรณีที่สอง “ไม่เคยต้องโทษโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก”

สำหรับกรณีแรกนั้น ก่อนการสรรหาไม่ได้เป็นข้าราชการเมืองหรือเป็นกรรมการพรรคการเมือง แต่เมื่อได้รับการแต่งตั้งแล้ว ภายหลังได้เป็นข้าราชการการเมืองหรือเป็นกรรมการพรรคการเมือง

ตามกฎหมายหรือข้อบังคับยังเป็นกรรมการอยู่ได้นะครับ แต่ในทางปฏิบัติควรจะเป็นต่อไปหรือควรจะลาออกหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมจริยธรรมของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิท่านนั้น

สำหรับกรณีที่สองก็เช่นกัน ก่อนการสรรหาไม่เคยต้องโทษโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แต่เมื่อเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ต้องโทษโดยคำพิพากษาให้จำคุก

แม้เป็นเพียงคำตัดสินของศาลชั้นต้น และกฎหมายหรือข้อบังคับไม่ได้ห้ามไม่ให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ผู้ที่มีคุณธรรมประจำใจบางท่านก็ลาออกแล้วครับ

ที่สำคัญที่สุดไม่ใช่กฎหมายหรือข้อบังคับหรอกครับ แต่เป็นเรื่องของการสร้างจิตสำนึกกันมากกว่าว่าอะไรควรหรืออะไรไม่ควร ใช่ไหมครับ

พุธทรัพย์ มณีศรี
(เผยแพร่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ : OK Nation Blog)

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
บทความใสสะอาด ที่เกี่ยวข้อง
Hover Icon
บทความใสสะอาด
ตามไปดูลูกสาวของแผ่นดินที่สงขลา
14 กุมภาพันธ์ 2566
245
Hover Icon
บทความใสสะอาด
คืนคุณภาพสู่ห้องเรียน
06 กุมภาพันธ์ 2566
1,781
Hover Icon
บทความใสสะอาด
จริยธรรมข้าราชการพลเรือน
06 กุมภาพันธ์ 2566
819
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" นโยบายความเป็นส่วนตัว

การตั้งค่าคุกกี้