กรุณาระบุคำค้นหาที่ท่านต้องการ

จิตสำนึก
บทความใสสะอาด
26 ตุลาคม 2565
ผู้เข้าชม 157 คน

    สังคมไทยทุกวันนี้หากสังเกตกันให้ดี จะพบข่าวคอร์รัปชันหรือการทำงานที่ไม่มีความโปร่งใสของ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตามหน้าหนังสือพิมพ์ รวมไปถึงทางวิทยุ และโทรทัศน์อยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่อง ชี้ให้เราเห็นถึงสภาพความเป็นจริงในสังคมที่กำลังเกิดขึ้น บ่งบอกถึงความเจ็บป่วยของสังคมที่มีคอร์รัปชันเป็นเนื้อร้ายทำลายทุกส่วนของสังคม

    จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อมองลึกลงไป พบว่า รากเง้าของปัญหานี้ น่าจะอยู่ที่ระบบการศึกษาที่เป็นกลไกสำคัญในการบ่มเพาะจิตสำนึกโดยเฉพาะเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ อย่างไรก็ตาม ระบบในสังคมไทยยังไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ระบบการศึกษาไม่ได้กระตุ้นให้เยาวชนและสังคมโดยรวมเกิดจิตสำนึกในการแก้ไข ป้องกันปัญหาคอร์รัปชัน และสร้างระบบตรวจสอบการทำงานทั้งของภาครัฐและเอกชนขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น ระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันยังไม่ได้อธิบายหรือให้ความหมายของคำว่า "คอร์รัปชัน" ให้สังคมได้รับรู้ความหมายอย่างจริงจัง แม้แต่ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานก็ยังไม่มีการบัญญัติศัพท์และความหมาย ของคำว่า คอร์รัปชัน ให้เข้าใจอย่างง่ายๆ นอกจากนี้การชี้ให้เห็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายคอร์รัปชันที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นพรรคเล่นพวก การฮั้วโครงการ การ ใช้เส้นสาย การปกปิดความผิด ฯลฯ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ระบบการศึกษาทั้งในและนอกระบบต้องให้ความเข้าใจ แก่สังคม เพราะสังคมอยู่กับพฤติกรรมข้างต้นมาเป็นระยะเวลายาวนาน จนเกิดความชาชินและรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งหากเรานิ่งเฉย ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นวัฒนธรรมและค่านิยมของคนในชาติแล้ว เป็นที่น่าวิตกต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับอนาคตของประเทศชาติ

    นอกจากระบบการศึกษาที่มีปัญหาแล้ว ระบบการเมืองภายในประเทศก็มีปัญหา ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยนั้น ไม่ควรมีลักษณะ "มือใครยาว สาวได้ สาวเอา" หรือ "น้ำขึ้นให้รีบตัก" เมื่อนักการเมืองเข้ามาเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร ต้องเข้ามาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เข้ามาปกป้องสิทธิประโยชน์ของตนเองหรือพรรคพวก โดยการใช้ช่องทางกฎหมายเอื้อผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง ดังตัวอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวชี้ให้เห็นถึงจิตสำนึกของผู้นำว่ามีความจริงใจในการบริหารบ้านเมืองหรือไม่ และเมื่อระบบการเมืองมีปัญหา สิ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกอย่างหนึ่ง คือ ระบบ ราชการ ที่ต้องอิงกับระบบการเมืองโดยเฉพาะการเมืองในปัจจุบันที่นักการเมืองเข้ามามีบทบาทและอำนาจสั่งการ ยิ่งทำให้ระบบราชการต้องผูกขาดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักการเมืองที่เข้ามามีอำนาจในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม หรือย้ายตำแหน่ง การทำงานของระบบราชการจึงเป็นการทำงานที่มีลักษณะของระบบอุปถัมภ์ระหว่างข้าราชการและนักการเมือง จนทำให้ข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถจำนวนไม่น้อยไม่สามารถทนกับระบบดังกล่าวได้ ต้องยอมลาออก ทั้งๆ ที่ต้องการใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่เพื่อการพัฒนาประเทศ ทำให้เกิดปัญหาสมองไหล ขาดแคลนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

    การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันจึงต้องแก้ควบคู่ไปกับการแก้ไขที่ระบบการศึกษา ระบบการเมือง และระบบราชการ อย่างไรก็ตาม จิตสำนึกของประชาชนทุกคนมีความสำคัญที่สุด เราไม่สามารถรอให้หน่วยงานใดมาจัดการเรื่องดังกล่าวให้หมดไปได้จากสังคม เราจึงต้องร่วมมือกันไม่ปล่อยให้คนทำผิดกลายเป็นคนถูก เพราะนี่คือผลประโยชน์ส่วนรวมของทุกคนในชาติ

สุจินตนา ภาวสิทธิ์

บทความใสสะอาด ที่เกี่ยวข้อง
Hover Icon
บทความใสสะอาด
ตามไปดูลูกสาวของแผ่นดินที่สงขลา
14 กุมภาพันธ์ 2566
246
Hover Icon
บทความใสสะอาด
คืนคุณภาพสู่ห้องเรียน
06 กุมภาพันธ์ 2566
1,789
Hover Icon
บทความใสสะอาด
จริยธรรมข้าราชการพลเรือน
06 กุมภาพันธ์ 2566
821
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" นโยบายความเป็นส่วนตัว

การตั้งค่าคุกกี้